วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2563

หน่วยทหารภาคใต้ เปิดค่ายจัดงานวันเด็ก โชว์แสนยานุภาพ บก เรือ อากาศ



หลายหน่วยทหารในจังหวัดภาคใต้ จัดงานกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติคึกคัก และยิ่งใหญ่ ทั้งกองบิน 56 กองบิน 7 ทัพเรือภาค 3 และหน่วย ฉก.นย. จ.นราธิวาส 

โดยทุกหน่วยต่างขนอาวุธยุทโธปกรณ์ เครื่องบิน อากาศยานรบ ให้เด็กได้ขึ้นสัมผัส และเรียนรู้ รวมทั้งเลี้ยงอาหาร เล่นเกมแจกของรางวัลมากมาย และให้เด็กช่วยแก้ไขปัญหาขยะไม่ให้ขยะล้นโลกและส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม
เมื่อวันนี้ 11 ม.ค.63 ณ ลานจอดอากาศยานฝูงบิน 561 กองบิน 56 ต.โคกม่วง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ได้มีการจัดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2563 อย่างยิ่งใหญ่เหมือนทุกปีที่ผ่านมา โดยปีนี้ มี น.อ.เอก สุทธิพงศ์ ผู้บังคับกองบิน 56 เป็นประธาน ในส่วนของกิจกรรมภาคอากาศ และภาคพื้น มีไฮไลต์อยู่ที่การบินโชว์สมรรถนะของเครื่องบินขับไล่ แบบ กริพเพน และเครื่องบิน AU-23 การสาธิตการบินค้นหาและช่วยชีวิต เบล-412 การกระโดดร่มเหินเวหา ความสูง 1หมื่นฟุต การสาธิตการดับเพลิงและกู้ภัย ในรูปแบบต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการจัดโชว์อากาศยาน รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์อันทันสมัยของกองทัพอากาศ การแสดงของสุนัขทหาร การแสดงของเด็กๆ และเยาวชน ทั้งบนเวทีและในพื้นที่กลางแจ้ง

แหล่งที่มา
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1745166

เล่นกับเด็ก



พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ร่วมเซลฟี่กับเด็ก ม.6 โรงเรียนนราธิวาส 

ในโครงการ “รินน้ำใจสู่พี่น้องชาวใต้” อย่างสนุกสนาน ระหว่างนำ ครม.ลงพื้นที่ตรวจราชการ และประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.นราธิวาส

แหล่งที่มา
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1752236

เข้มปลอดภัย “บิ๊กตู่” ประชุม ครม.สัญจรนราธิวาส กำชับทุกส่วนต้องไม่ทุจริต



“บิ๊กตู่” นำประชุม ครม.สัญจร นัดแรกของปีที่นราธิวาส พอใจผลงานลงพื้นที่หลังเห็นรอยยิ้มประชาชน ย้ำทุกกระทรวงกำชับในส่วนงานต้องไม่ทุจริต ทำผิดกฎหมาย

วันที่ 21 ม.ค. 2563 ที่ห้องประชุม อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน (นราธิวาส ปัตตานี และยะลา) ก่อนที่ในเวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2563 (ครม.สัญจร) ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารยืนประจำจุด ทุกๆ 200 เมตร มีเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก (Black Hawk) บินตรวจ โดยเมื่อคืนวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พักค้างคืนในค่ายจุฬาภรณ์ กองพันทหารราบที่ 9 รักษาพระองค์ จ.นราธิวาส
ทั้งนี้ ก่อนการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ทักทายกับบรรดานักศึกษาวิชาทหารหญิงชั้นปีที่ 4 และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พร้อมทักทายและร่วมถ่ายรูป จากนั้นเยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆ อย่างอารมณ์ดี อาทิ ผลิตภัณฑ์จักสานกระจูด ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มกระจูดบ้านโคกพะยอม พร้อมชื่นชมว่ามีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงรูปแบบให้ทันยุคทันสมัยมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ทดลองนวดคลายเส้นเพื่อแก้เมื่อย โดยพูดด้วยว่า “ช่วงนี้รู้สึกเมื่อย” ขณะที่ช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชนใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเสียบบัตรแทน หรือกรณีปัญหา นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รุกป่าเขาใหญ่
“สิ่งสำคัญของการประชุม ครม. นอกสถานที่นั้น ก่อให้เกิดโครงการใหม่ๆ ที่มีความต้องการเร็วขึ้น และใช้งบประมาณไม่มาก ซึ่งรัฐบาลจะหางบประมาณต่างๆ มาเสริมให้ทุกครั้ง โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เราก็ทำลักษณะนี้ตลอด เวลามารับฟังความคิดเห็น เรื่องไหนที่เร่งด่วนอะไรที่ยังไม่เข้าแผนก็จะนำมาพิจารณาศึกษาเข้าแผน โดยใช้งบประมาณ กลางบางส่วน เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน

แหล่งที่มา
https://www.thairath.co.th/news/politic/1752613

นร.ทุน กสศ.ขอบคุณ นายกฯ-รัฐบาล ให้โอกาสสานฝันเป็น ครูรัก(ษ์)ถิ่น



นร.ทุน กสศ.ขอบคุณ นายกฯ-รัฐบาล ให้โอกาสสานฝันเป็น ครูรัก(ษ์)ถิ่น แม้ลำบากไม่หวั่น 

ขอพัฒนาบ้านเกิด ด้าน กสศ.เดินหน้าช่วยเด็กด้อยโอกาส 3 จังหวัด มากกว่า 5.3 หมื่นคน 
วันที่ 21 ม.ค. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แวะกล่าวทักทายเด็กนักเรียนโครงการเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข หรือนักเรียนทุนเสมอภาค จากโรงเรียนบ้านคอลอกาเว อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส และนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น ที่มารอต้อนรับ
โดยมีนายสุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) กล่าวรายงานสถานการณ์การช่วยเหลือเด็กในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ว่า กสศ.ดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนด้อยโอกาส ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ผ่านโครงการเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษอย่างมีเงื่อนไข โดยมีนักเรียนจาก 3 จังหวัด ได้รับทุนเสมอภาค จำนวน 53,763 คน จาก 937 โรงเรียน จำแนกเป็น จังหวัดนราธิวาส 23,783 คน จังหวัดปัตตานี 14,148 คน จังหวัดยะลา 15,832 คน
“เด็กๆ จะได้รับเงินอุดหนุน 3,000 บาทต่อคนต่อปีการศึกษา เพื่อบรรเทาอุปสรรคในการมาเรียน เช่น เป็นค่าอาหารเช้าสำหรับชั้นอนุบาล-ประถมศึกษาและค่าอาหารเช้า/อาหารกลางวันสำหรับชั้นมัธยมศึกษา ค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาเรียน ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพระหว่างเรียน รวมถึงเพื่อเป็นค่ากิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ โดยข้อมูล ระบบ iSEE ของกสศ. พบว่า เด็กกลุ่มนี้ อยู่ในครอบครัวที่มีรายได้เฉลี่ยต่อคน/เดือน 957 บาท หรือราว 32 บาทต่อวัน เท่านั้น”
นายสุภกร กล่าวว่า ความพยายามในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัด ยังรวมไปถึงการแก้ปัญหาครู ไม่ครบชั้นและโยกย้ายบ่อย ผ่านโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น ที่กสศ.ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ช่วยสร้างโอกาสให้นักเรียนช้างเผือกในพื้นที่ห่างไกล ที่มีใจรักในวิชาชีพครู และมีศักยภาพในการเรียนรู้ ได้เรียนครูจนจบปริญญาตรีอย่างมีคุณภาพ และได้รับการบรรจุเป็นครูรุ่นใหม่ในโรงเรียนขนาดเล็กพื้นที่ห่างไกลซึ่งเป็นบ้านเกิดของตนเอง โดยในพื้นที่ 3 จังหวัด กสศ.ทำงานร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาในการเป็นสถาบันผลิตและพัฒนาครูรุ่นใหม่ ในปี 2563 มีนักเรียนชั้น ม.6 ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และยะลา ได้รับทุนจำนวน 19 คน หลังสำเร็จการศึกษาจะบรรจุในโรงเรียนขนาดกลางและขนาดเล็กของ สพฐ. ทั้ง 2 จังหวัด จำนวน 16 แห่ง

แหล่งที่มา
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1752895

วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2563

นายกฯ ลั่น แผ่นดินไทยอย่าให้ใครแบ่งแยก ชี้ ไม่อยากให้ใครเจ็บ-ตาย




นายกฯ หนักใจแก้ปัญหาเก่า เจอปัญหาใหม่แทรก ลั่น แผ่นดินไทยอย่าให้ใครมาแบ่งแยก ขู่ ใครกดราคาซื้อยาง-ปาล์มโดนหมด ลั่น พร้อมดูแลทุกพรรค
วันที่ 20 ม.ค. 2563 ที่อาคารรื่นอรุณ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการลงพื้นที่ตรวจราชการและประชุม ครม.สัญจร ติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาจังหวัด โดยมีประชาชนกว่า 2,000 คนมาต้อนรับ
นายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายสวัสดีเป็นภาษามลายู “อัสสลามุอะลัยกุม” พร้อมกล่าวว่า เราจะมาช่วยกันระดมความคิด หากได้อยู่ต่อเราก็จะทำให้ต่อเนื่องไป เพราะนี่คือความยั่งยืน การแก้ไขปัญหามีทั้งเหนื่อยและหนักใจ ซึ่งเป็นความเดือดร้อนของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง มีทั้งปัญหาเดิมและปัญหาใหม่เข้ามาแทรกส่งผลกระทบทั่วไป ขณะที่ภาคใต้งบประมาณแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ งบประมาณความมั่นคงและงบประมาณพัฒนา ซึ่งใช้มากพอสมควร ไม่ว่าจะพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษหรือโครงการต่างๆ ซึ่งต้องปรับการทำงานให้สอดคล้องกับความต้องการในพื้นที่ในทุกกิจกรรม โดยงบประมาณจะต้องกระจายลงไปในพื้นที่เพื่อบริหารงานได้ ไม่ใช่ให้เป็นก้อนใหญ่
ทั้งนี้ ถือว่าทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกับตน ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด เชื้อชาติใด ล้วนเป็นคนไทยทั้งสิ้น ที่นี่คือแผ่นดินไทย จะแบ่งแยกไม่ได้ ต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาของพวกเราเอง อย่าให้ใคร อย่าไปเอาต่างประเทศมาช่วยแก้ เพราะที่นี่คือบ้านเมืองของเรา แล้วยิ่งปัญหาที่มีความกระทบกระทั่ง คนขัดแย้งไม่เข้าใจกันทางความคิดต้องพยายามทำให้เข้าใจมากขึ้น เรามียุทธศาสตร์เยอะแยะ ส่วนเรื่องราคายางพารา ปาล์มน้ำมัน ใครซื้อกดราคาโดนหมด ต้องโปร่งใส จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ถามผู้ร่วมงานว่า “ใครรักผม ให้ยกมือขึ้น” ส่วนใหญ่ยกมือ นายกรัฐมนตรีจึงกล่าวว่าตนเป็นทหาร บางทีพูดเพราะบ้าง ไม่เพราะบ้าง แต่จริงใจ ส่วนสถานการณ์ภาคใต้ตอนนี้ลดลง ไม่อยากให้ใครเจ็บใครตายทั้งนั้น
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม อำนวยความสะดวกการใช้โทรศัพท์ให้ดีขึ้น แต่ขอให้ประชาชนเปิดโทรศัพท์ที่เป็นสาระ ไม่ได้ต่อว่าใคร ไม่เคยดูถูกใคร บางทีพูดเพื่อให้เข้าใจบ้าง แต่กลับโดนกล่าวหาไปดูถูกคน จะไปดูถูกประชาชนได้อย่างไร เพราะประชาชนเป็นเจ้านายตนทั้งนั้น และ ส.ส.ในพื้นที่รัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้ง ประชาชนเลือกมาต้องทำงานให้คุ้ม และประชาชนก็อย่าทอดทิ้งเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคร่วมรัฐบาล พรรคอื่นก็เป็นเรื่องของเขา แต่พร้อมดูแลหากเขามาร่วมมือในช่องทางที่เป็นไปได้ จะทำให้หมด รังเกียจเขาไม่ได้ เพราะประชาชนอยู่กับเขา ประชาชนเลือกมา ไม่ว่าจะพรรคไหนก็ตาม ซึ่งประชาธิปไตยเป็นอย่างนี้
จากนั้นนายกรัฐมนตรีลงจากเวทีเดินทักทายนักเรียน นักศึกษา ประชาชน รวมถึงถ่ายรูปเซลฟี่ทำสัญลักษณ์มินิฮาร์ท ก่อนเยี่ยมชมนิทรรศการ อาทิ คลินิกกัญชาทางการแพทย์ จ.นราธิวาส การค้าขายออนไลน์ ต้นกระบองเพชร ผลิตภัณฑ์จากวิทยาลัยการอาชีพสุไหงโก-ลก และผลิตภัณฑ์โอทอป ชิมน้ำผึ้งชันโรง ซึ่งสรรพคุณช่วยรักษาเบาหวาน ความดัน โรคเกาต์ เพิ่มสมรรถภาพ และอุดหนุนซื้อกระเป๋ากระจูดผสมหนัง และผ้าทอลายพิกุลพลอย.
แหล่งที่มา